​    สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยก็คือการที่ประชาชนคนไทยขาดคุณธรรม จริยธรรม

ค่านิยมของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป คนดีถูกสังคมละเลย มัวแต่ชื่นชมและยกย่องคนมีเงิน โดยไม่คำนึงว่าเงินนั้นได้มาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ นอกจากนั้น คนในสังคมยังแตกแยก ทำให้คนไทยหลายคนไม่อาจแยกแยะความถูกต้องชั่วดีได้

มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ซึ่งตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนไทยมีจริยธรรม มีคุณธรรม รังเกียจการทุจริต ถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ รวมทั้งเพื่อสร้างแนวร่วมในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในสังคมไทย

จึงได้ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดต่างๆ ในการส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือด้านคุณธรรมจริยธรรม โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมเพื่อราชการและประเทศไทยใสสะอาดและสร้างสังคมคุณธรรมทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด

สำหรับในจังหวัดต่างๆ นั้น ได้เริ่มโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม เพื่อจังหวัดใสสะอาด มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยได้พิจารณาเห็นว่า “จังหวัดใสสะอาด” เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างสังคมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ให้เกิดความสำนึกตระหนักในหน้าที่พลเมืองที่ดี

นอกจากนั้น ยังช่วยในการสร้างความคิดสร้างสรรค์เชิงบวกในการแสดงบทบาทหน้าที่อย่างแข็งขัน ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองและชุมชนตามความรู้ความสามารถ รวมทั้งแก้ไขปัญหาสังคมและจริยธรรมด้านต่างๆ ได้

โดยการขยายผลไปสู่องค์กร หมู่บ้าน ชุมชนและบุคคลต่างๆ ในจังหวัด เป็นการอาสาและท้าทายความในสะอาด รวมทั้งรณรงค์เพิ่มสมาชิกเครือข่ายให้เป็นคนดีในสังคม

ทั้งนี้ โดยมีความหวังต่อไปว่าเมื่อประชาชนในจังหวัดใสสะอาดแล้ว ก็หวังว่าประเทศไทยโดยรวมจะสะอาดยิ่งขึ้น

โดยเล็งเห็นว่าเมื่อประเทศชาติและสังคมส่วนใหญ่ใสสะอาดและเป็นคนดีแล้ว ผู้ไม่หวังดีย่อมต้องถูกจับตามอง ทำให้มิอาจกระทำความชั่วได้ตามใจปรารถนา

ซึ่งตรงกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่า

“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้

ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็น

คนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี

ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖

ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๖๐ มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงาน ก.พ. และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับจังหวัดต่างๆ จัดโครงการนี้แล้ว โดยเรียงตามลำดับก่อนหลังในการจัดงาน ซึ่งบางจังหวัดก็ได้จัดซ้ำ คือ

จังหวัดขอนแก่น ชัยนาท ภูเก็ต ลพบุรี เชียงใหม่ ลพบุรี ลำปาง นครศรีธรรมราช ขอนแก่น ระยอง ชัยนาท น่าน ราชบุรี นครพนม นครนายก สุโขทัย หนองคาย และจังหวัดลำปาง

โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ กำหนดจัดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สระบุรี และแพร่

ภาพประกอบเรื่องทั้งหมดในบทความนี้ เป็นภาพเก่าที่จัดในจังหวัดต่างๆ นะครับ ต้องการให้เห็นตัวอย่างกิจกรรมเท่านั้น

ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ นี้ ด้วยความร่วมมือของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงาน ก.พ. และกระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม เพื่อจังหวัดใสสะอาด ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ๑ โรงแรมบรรจง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนของมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาดนั้น ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาประสิทธิภาพในราชการและสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.)

กิจกรรมในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เริ่มด้วยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับ หลังจากนั้น นายวิชัย ศรีขวัญ กรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด กล่าวเปิดโครงการและบรรยาย เรื่อง “เสริมสร้างจังหวัดสุราษฎร์ธานีใสสะอาด”

    ก่อนพักรับประทานอาหารกลางวัน ก็มีการอภิปรายเป็นคณะ เรื่อง “จริยธรรมนำไทย สร้างรัฐโปร่งใส ป้องภัยทุจริต” โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวกัฑณา ลิ่มชวลิต ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดิน จังหวัดระนอง นางมลินีนัน ณัฐศรีวัฒน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช นางสตพร สุวรรณประดับ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการศึกษาและการมีส่วนร่วมของพลเมืองที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายอาร์ม วงศ์อำไพพิสิฐ กรรมการบริหารหอการค้าสุราษฎร์ (ฝ่าย ปชส.) โดยมีนายภาณุภาคย์ พงศ์อภิชาต นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ก.พ. เป็นผู้ดำเนินรายการ

หลังรับประทานอาหารกลางวัน มีการระดมความคิดเห็น เรื่อง “การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อจังหวัด และประเทศไทยใสสะอาด” โดยแยกเป็น ๒ กลุ่ม

กลุ่มที่ ๑ คือข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์กรหรือประชาคมให้เป็น ตัวแทนคนดีของพื้นที่

กลุ่มที่ ๒ คือหน่วยงานที่มีหน้าที่การป้องกัน และปราบปราม

หลังจากนั้น เป็นการนำเสนอผลการสัมมนาของทั้งสองกลุ่มแล้วมอบประกาศเจตนารมณ์หน่วยงานและพื้นที่อาสาสมัครใสสะอาด มอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อจังหวัดและประเทศไทยใสสะอาด

ที่สำคัญคือนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะกล่าวเสนอแนะแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมที่จะส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนและการขยายผลโครงการ ได้แก่พิธีมอบป้ายแสดงเจตนารมณ์เป็นอาสาสมัครของประชาคมแต่ละหน่วยงาน

ในเบื้องต้นหน่วยงานที่ได้มีมติประชาคมในหน่วยงาน ที่แสดงเจตนารมณ์เป็นหน่วยงานนำร่องใสสะอาดในครั้งนี้ คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานคลังจังหวัดสุราษฏร์ธานี สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี และที่ว่าการอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

ก็หวังว่าเมื่อถึงวันงานประชุมสัมมนา หน่วยงานที่เข้ารับมอบป้ายประกาศเจตนารมณ์ จะมีจำนวนมากขึ้น

หลังจากนั้น นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวปิดการสัมมนา ก็เป็นอันจบงาน

แต่ที่ยังไม่จบก็คือการเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ไปเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อให้ครอบคลุมเต็มพื้นที่ทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป

ครับ เป็นกิจกรรมดีๆ อีกกิจกรรมหนึ่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงาน ก.พ. และระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกันจัดขึ้น ผู้เขียนขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทั้งสี่องค์กรที่ช่วยกันทำให้ประเทศไทยใสสะอาดขึ้น

ที่สำคัญหวังว่าโครงการนี้ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประพฤติปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย มีวินัย มึคุณธรรม จริยธรรม และร่วมกันป้องกัน แก้ไข สิ่งผิด รวมทั้งส่งเสริมคนดี ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดใสสะอาดอีกจังหวัดหนึ่ง

พุธทรัพย์ มณีศรี